|
|
วันที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๖๖ สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ที่ ๖ เปิดโครงการ "THINK & DO TOGETHER บูรณาการเพื่อสร้างความเข้มแข็งแก่สหกรณ์อย่างยั่งยืน โดยได้รับเกียรติจากนางสาวอัญมณี ถิรสุทธิ์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิด โดยมีนางสาวกัลยาณี แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ที่ ๖ พร้อมด้วย นางสาวอรอนงค์ อินจู นักวิชาการตรวจสอบบัญชีชำนาญการพิเศษ ปฏิบัติราชการในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการบัญชีและการสอบบัญชี (นักวิชาการตรวจสอบบัญชีเชี่ยวชาญ) หัวหน้าสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ในพื้นที่ และบุคลากรในสังกัด ร่วมให้การต้อนรับนางสาวอัญมณี ถิรสุทธิ์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ พร้อมคณะผู้บริหารกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ณ ห้องพิจิตรา โรงแรมเมย์ฟลาวเวอร์ แกรนด์ พิษณุโลก
อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก
โดยกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เปิดโครงการ "THINK & DO TOGETHER บูรณาการเพื่อสร้างความเข้มแข็ง แก่สหกรณ์อย่างยั่งยืน พร้อมลงนาม MOU ประสานความร่วมมือ ๕ ฝ่าย ในขบวนการสหกรณ์ เชื่อมโยงเครือข่าย บูรณาการงานร่วมกันพัฒนาสหกรณ์เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน ตั้งเป้าจัดอบรมเสริมสร้างความรู้ด้านการเงิน การบัญชีและการควบคุมภายในที่ดี พร้อมผลักดันการใช้งานโปรแกรมระบบบัญชีฯ และแอปพลิเคชันตรวจสอบการทำธุรกรรม สร้างความเชื่อมั่นให้สมาชิก นางสาวอัญมณี ถิรสุทธิ์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้จัดทำโครงการ "THINK & DO TOGETHER บูรณาการเพื่อสร้างความเข้มแข็งแก่สหกรณ์อย่างยั่งยืน ซึ่งจัดขึ้นเพื่อยกระดับความสามารถในการบริหารจัดการด้านการเงินการบัญชี และการควบคุมภายในแก่สหกรณ์ โดยบูรณาการสร้างความร่วมมือเพื่อพัฒนาสหกรณ์สู่ความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน พร้อมจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง ๕ ฝ่าย ได้แก่ คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ ฝ่ายจัดการสหกรณ์ ผู้ตรวจสอบกิจการสหกรณ์ ผู้ตรวจการสหกรณ์ (กรมส่งเสริมสหกรณ์) และผู้สอบบัญชีสหกรณ์ (กรมตรวจบัญชีสหกรณ์) บูรณาการความร่วมมือ ๕ ประสาน ทำงานร่วมกัน ในการขับเคลื่อนแผนสร้างความเข้มแข็งแก่สหกรณ์ เพื่อยกระดับความสามารถในการบริหารจัดการด้านการเงินการบัญชีและการควบคุมภายในให้กับสหกรณ์ รับทราบและเข้าใจบริบทของสหกรณ์ สามารถกำหนดแผนภายใต้โครงการฯ ตามกรอบแนวทางการขับเคลื่อน ๕ ด้าน ได้แก่ ๑. ด้านการเงินการบัญชี (Finance and Accounting) ๒. ด้านการปฏิบัติ (Operation) ๓. ด้านการบริหารงาน (Management) ๔. ด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information System)
และ ๕. ด้านอื่น ๆ โดยมุ่งเน้นในการส่งเสริมให้สหกรณ์มีระบบการควบคุมภายในที่ดี เป็นการป้องกันความเสียหาย ทางการเงินที่อาจเกิดขึ้น สร้างความศรัทธาและสร้างความเชื่อมั่นให้กับสมาชิกสหกรณ์ รวมทั้งสร้างความร่วมมือ เพื่อพัฒนาสหกรณ์สู่ความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน
อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการดำเนินกิจกรรมตามโครงการฯ ได้มอบหมายให้สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ที่ ๖ คัดเลือกสหกรณ์เป้าหมายในการนำร่องเป็นปีแรกเข้าร่วมอบรม จำนวน ๒ รุ่น ๆ ละ ๕๐ คน รวม ๑๐๐ คน ซึ่งสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ที่ ๖ มีสหกรณ์เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน ๑๐ สหกรณ์ โดยรุ่นที่ ๑ ดำเนินการจัดในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ในวันจันทร์ที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๖๖ จำนวน ๕ สหกรณ์ ได้แก่ สหกรณ์การเกษตรนครไทย จำกัด สหกรณ์การเกษตรนิคมฯ บางระกำ จำกัด สหกรณ์นิคมวังทอง จำกัด สหกรณ์วัดจันทร์ จำกัด และสหกรณ์การเกษตรวังทอง จำกัด และรุ่นที่ ๒ ดำเนินการจัดในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ ในวันพฤหัสบดีที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๖๖ จำนวน ๕ สหกรณ์ ได้แก่ สหกรณ์การเกษตรลาดยาว จำกัด สหกรณ์การเกษตรตากฟ้า จำกัด สหกรณ์การเกษตรปฏิรูปที่ดินแม่วงก์ จำกัด สหกรณ์การเกษตรตาคลี จำกัด และสหกรณ์การเกษตรท่าตะโกพัฒนา จำกัด เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจแก่คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ ฝ่ายจัดการสหกรณ์ ผู้ตรวจสอบกิจการสหกรณ์ ผู้ตรวจการสหกรณ์ และผู้สอบบัญชีสหกรณ์ ได้รับทราบถึงแนวปฏิบัติที่ดี (Best Practice) ในการควบคุมภายใน ทั้งด้านการบริหารงานทั่วไปและด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ทราบถึงข้อมูลที่สำคัญที่จะนำไปใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลและนำไปใช้ในการจัดทำแผนงาน/กิจกรรม เพื่อสร้างความเข้มแข็งด้านการเงินการบัญชี สามารถวิเคราะห์ข้อมูล รายงานทางการเงิน โครงสร้างทางการเงิน วิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงินด้วยโปรแกรม CFSAWS:ss และรายการผิดปกติในงบการเงินได้ รวมไปถึงการผลักดันให้สหกรณ์มีการสื่อสารสร้างการรับรู้และบริการสมาชิกได้รวดเร็วทั่วถึง สมาชิกสหกรณ์เห็นความสำคัญในการตรวจสอบข้อมูลการทำธุรกรรมของตนเองกับสหกรณ์ โดยมีการใช้ Application ตรวจสอบข้อมูลตนเองได้แบบทันทีและตลอดเวลา ซึ่งจะทำให้สหกรณ์มีความเข้มแข็งด้านการเงินการบัญชีและมีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ตลอดจนเป็นการป้องกันการทุจริต และลดการเกิดข้อบกพร่องทางการเงินการบัญชี เกิดการพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือและการเรียนรู้ที่เป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น
"การดำเนินโครงการฯ ดังกล่าว นับเป็นการประสานความร่วมมือให้เกิดการขับเคลื่อนแผนงานสู่การปฏิบัติ โดยจะมีการติดตามความก้าวหน้าผลการดำเนินการอย่างชัดเจน สามารถนำข้อเสนอแนะ ข้อสังเกต และจุดอ่อนการควบคุมภายในไปใช้ในการแก้ไขปัญหาร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ พัฒนาสหกรณ์ให้มีความเข้มแข็งด้านการเงินการบัญชีและมีระบบการควบคุมภายในที่ดี เพื่อสร้างความเข้มแข็งแก่สหกรณ์อย่างยั่งยืน อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าว |
|
|
|